วิชาที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
วิชาที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายรูปแบบของการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม 10 รูปแบบได้ 2. แสดงตัวอย่างการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมได้
3. อธิบายการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาได้
4. อธิบายแนวทางปฏิบัติในการให้ของขวัญและรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐได้
เจ้าหน้าที่ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 8 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เข้ารับการอบรม e-Learning หลักสูตร "สร้างวิทยากรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต" ผ่านระบบแพลตฟอร์มต้นทุจริตศึกษา (Anti Corruption Education Platform) ของสำนักงาน ป.ป.ช. https://aced.nacc.go.th จำนวน 2 คน ดังนี้
1. นางสาวปิยกุล กรรณสูต ตำแหน่ง นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการพิเศษ
2. นางสาวศุภาลัย การบรรจง ตำแหน่ง นักวิชาการอุตสาหกรรมปฏิบัติการ
เรื่อง รูปแบบของการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม 10 รูปแบบ พร้อมตัวอย่าง ดังนี้
การรับผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ รับของขวัญจากบริษัทเอกชนที่ช่วยให้บริษัทชนะการประมูลรับงานโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ
การทำธุรกิจกับตนเองหรือคู่สัญญา เช่น ผู้บริหารของหน่วยงาน ทำสัญญาจ้างบริษัทที่ภรรยาของตนเป็นเจ้าของ มาเป็นที่ปรึกษาของหน่วยงาน
การทำงานหลังจากออกจากตำแหน่งหน้าที่สาธารณะหรือหลังเกษียณ (นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งไม่เกิน 2 ปี) เช่น เจ้าหน้าที่ขององค์กรด้านเวชภัณฑ์และสุขภาพ ออกจากราชการไปทำงานในบริษัทผลิตหรือขายยา
การทำงานพิเศษ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ทำงานที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน แต่เอาเวลาไปรับงานพิเศษที่นอกเหนือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงาน
การรู้ข้อมูลภายใน เช่น เจ้าหน้าที่พัสดุเปิดเผยข้อมูลของฝ่ายที่มายื่นประมูลไว้ก่อนหน้า ให้แก่ผู้ประมูลรายอื่นที่ให้ผลประโยชน์ ทำให้ฝ่ายที่มายื่นประมูลก่อนเสียเปรียบ
การใช้ทรัพย์สินของราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตน เช่น เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอำนาจอนุมัติให้ใช้รถราชการ นำรถยนต์ราชการไปใช้ในกิจส่วนตัว
การนำโครงการสาธารณะลงในเขตเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง เช่น นักการเมืองในจังหวัด ขอเพิ่มงบประมาณเพื่อนำโครงการสร้างสะพานลงในจังหวัดโดยใช้ชื่อสกุลของตนเป็นชื่อสะพาน
การใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แก่เครือญาติ เช่น พนักงานสอบสวนละเว้นไม่นำบันทึกการจับกุมที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทำขึ้นในวันเกิดเหตุรวมเข้าสำนวย แต่กลับเปลี่ยนบันทึำและแก้ไขข้อหาในบันทึก เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาซึ่งเป็นญาติให้รับโทษน้อยลง
การใช้อิทธิพลเข้าไปมีผลต่อการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐอื่น เช่น เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งเข้าแทรกแซงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
การขัดกันแห่งผลประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมประเภทอื่น เช่น เจ้าหน้าที่รัฐลงเวลาปฏิบัติงานนอกเวลา โดยมิอยู่ปฏิบัติงานจริงเรื่อง การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา1. จากญาติให้โดยเสน่หา2. จากมิใช่ญาติ ไม่เกิน 3,000 บาท3. ลักษณะการให้กับบุคคลทั่วไปเรื่อง แนวทางปฏิบัติในการให้ของขวัญและรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ1. เจ้าหน้าที่รัฐ จะให้ของขวัญแก่ผู้บังคับบัญชา หรือบุคคลในครอบครัวของผู้บังคับบัญชา นอกเหนือจากกรณีปกติประเพณีนิยมที่มีการให้ของขวัญ แก่กันมิได้2. ผู้บังคับบัญชาจะยินยอมให้บุคคลในครอบครัวรับของขวัญจากผู้อยู่ในบังคับบัญชา มิได้3. เจ้าหน้าที่ จะยอมให้บุคคลในครอบครัวรับของจากผู้เกี่ยวข้องการทำงานมิได้4. ยอมให้บุคคลในครอบครัวรับได้ตามประเพณีนิยม ราคาไม่เกิน 3,000 บาท5. ถ้าคนในครอบครัวรับ ให้เจ้าหน้าที่รัฐรายงานผู้บังคับบัญชาทันที6. ให้ใช้บัตรอวยพร ลงนามสมุดอวยพร บัตรแสดงความเสียใจ แทน
10
พ.ค.
2566